- 07.30 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 8 เคาน์เตอร์ R โดยสายการบิน AIR ASTANA โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินด้านสัมภาระและเอกสารให้กับท่าน10.05 น. เหินฟ้าสู่ เมืองอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน โดยสายการบิน Air Astana เที่ยวบินที่ KC932 (1005-1635) (ใช้เวลาบิน 7 ชั่วโมง 30 นาที)16.35 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติอัลมาตี รอเปลี่ยนเครื่องบินเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางเมืองบิชเคก18.05 น. เหินฟ้าสู่ เมืองบิชเคก ประเทศคีร์กีซสถาน โดยสายการบิน Air Astana เที่ยวบินที่ KC109 (1805-1900) (ใช้เวลาบิน 55 นาที)19.00 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติมานัส ประเทศคีร์กีซสถาน หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองพร้อมรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เชิญพบกับไกด์ท้องถิ่น นำท่านเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวง ระยะทางประมาณ25 กิโลเมตรคีร์กีซสถาน เป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียกลางและเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล โดยมีพรมแดนติดกับสาธารณรัฐประชาชนจีน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน มีเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดชื่อว่า บิชเคก (เดิมเรียกว่า ฟรุนเซ) คีร์กีซสถานเดิมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตค่ำ รับประทานอาหารค่ำเข้าสู่โรงแรมที่พัก HOTEL NOVOTEL 5*, Bishkek หรือเทียบเท่า
Winter Kyrgyzstan 7 Days คีร์กีซสถาน เหมันต์ฤดู
ทัวร์
เอเชียกลาง
ระยะเวลา
7 วัน 5 คืน
สายการบิน
วันเดินทาง
23-29 กุมภาพันธ์ 2567
Hilight
สัมผัสวิถีชีวิตชาวคีร์กีซ ประเทศในเอเชียกลาง พร้อมยลโฉมเทือกเขาสวรรค์ “เทียนซาน” ท่ามกลางหิมะปกคลุมงดงาม
*เดินทางเต็มรอบเส้นทางทะเลสาบแสนสวย อิสสิก คูล* บิชเคก - โชลพอน อาตา - โชน เคมิน – ทะเลสาบอิสสิก คูล - คาราโคล
โกลบอล ฮอลิเดย์ ขอนำเสนอการท่องเที่ยวด้วยเส้นทางสายธรรมชาติ ในทวีปเอเชียกลาง ประเทศคีร์กีซสถาน ท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศความบริสุทธิ์ของธรรมชาติระหว่างการเดินทางตลอดจนพบปะผู้คนท้องถิ่นที่มีอัธยาศัยไมตรีเป็นมิตรอย่างยิ่ง คีร์กีซสถาน เป็นประเทศในเอเชียกลางที่มีเขตแดนติดกับสาธารณรัฐประชาชนจีน คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน และทาจิกิสถาน ทั้งนี้ประเทศคีร์กีซสถาน เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกติดกับทะเล และมีเมืองหลวงที่เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศที่มีชื่อว่า “บิชเคก” แต่เดิมทีเรียกว่า “ฟรุนเซ” ตั้งอยู่ทางตอนบนของประเทศ คีร์กีซสถานเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ก่อนที่จะแยกตัวออกจากโซเวียต ซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศรัสเซีย ได้ชื่อว่า ทวีปยูเรเซีย ทำให้ประเทศแห่งนี้มีภาษา ศิลปะ และวัฒนธรรมที่ผสมผสานความเป็นเอเชียกับความเป็นยุโรปคละเคล้ากันอย่างลงตัวเสมือนเป็น “ดินแดนสวิสน้อย” ในภาคพื้นเอเชียกลางเลยก็ว่าได้ ท่านจะได้เห็นถึงความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนาที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามและคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์
แผนการท่องเที่ยว
-
Day 1กรุงเทพฯ – บิชเคก
-
Day 2บิชเคก – หมู่บ้านแทมชี - ทะเลสาบอิสสิก คูล - โชลพอน อาตา
- เช้า รับประทานอาหารเช้าจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองโชลพอน อาตา (Cholpon Ata) ตลอดเส้นการเดินทางจะเลียบชายฝั่งทะเลสาบทางด้านตอนบน ทำให้สามารถชมวิวที่ทอดยาวไปยังทะเลสาบอิสสิก-คูลที่งดงาม จนคนท้องถิ่นเรียกพื้นที่นี้ว่าเป็นเสมือนไข่มุกทอแสงประกายแห่งเอเชียกลาง เพราะแสงอาทิตย์ที่สาดส่องตกกระทบไปยังทะเลสาบสะท้อนแสงระยิบระยับนั่นเอง ระหว่างทางแวะชมวิธีการผลิต งานหัตถกรรมผ้าสักหลาด (Handmade Felt Making) ทำมือของท้องถิ่นชาวคีร์กีซ ที่สวยงามและ เลื่องชื่อ ที่หมู่บ้านแทมชี่ (Tamchy Village) ท่านจได้เรียนรู้พร้อมสนุกเพลิดเพลินกับการลองทำชิ้นงานสักหลาด นอกจากนี้ท่านยังสามารถหาซื้อของที่ระลึกที่ทำจากผ้าสักหลาด เช่น หมวก กระเป๋า รองเท้า ตุ๊กตา และอื่นๆ อีกมากมายกลางวัน รับประทานอาหารกลางวันบ่าย นำท่าน ล่องเรือในทะเลสาบอิสสิก-คูล (Issyk-Kul Lake) เป็นทะเลสาบที่อยู่บนเขตเทือกเขาเทียนซานและเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากทะเลแคสเปียน และยังมีความลึกเป็นอันดับที่ 7 ของโลกทะเลสาบแห่งนี้รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม แม้ว่าจะแวดล้อมไปด้วยยอดเขาหิมะปกคลุม แต่ทะเลสาบแห่งนี้ไม่เคยแข็ง จึงได้ชื่อว่า ทะเลสาบอิสสิก-คูล แปลว่า "ทะเลสาบอุ่น" ในภาษาคีร์กีซเดินทางต่อไปยัง เมืองโชลพอน อาตา (Cholpon-Ata) เมื่อถึงนำท่านชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งศิลปะสกัดหิน (Petroglyphs Museum) เป็นลานหินธรรมชาติกลางแจ้งกินพื้นที่บริเวณขนาดใหญ่ ตามข้อสันนิษฐานค้นพบหินหลายขนาดกว่าพันก้อน ก้อนหินมีขนาดตั้งแต่ 30 เซนติเมตรถึง 3 เมตรที่มีการสกัด ตอกเซาะ แกะสลักหิน เพื่อให้เกิดเป็นภาพต่างๆ และระบายสีทับ เชื่อว่าสร้างขึ้นโดยมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ (ประมาณ 800 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ภาพที่สลักบนหินสำคัญๆ อาทิ เช่น นายพรานกำลังล่าเสือดาวหิมะ ก็เป็นภาพที่ค้นพบที่นี่เป็นแห่งเดียวในแถบเอเชียกลาง หินส่วนใหญ่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และเฉียงเหนือ จึงสันนิษฐานว่าอาจเป็นการทำเพื่อบูชาพระอาทิตย์ ซึ่งแสดงให้เห็นความเชื่อทางจิตวิญญาณของคนโบราณในยุคนั้นจากนั้นเยี่ยมชม ศูนย์รวมจิตวิญญาณ รุกก์ ออโด (Rukh-Ordo Spiritual Complex) ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งของทะเลสาบอิสสิก-คูล ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.2002 เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร คำว่า Rukh-Ordo ในภาษาคีร์กีซแปลว่า "ศูนย์กลางแห่งจิตวิญญาณ" ศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้เปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้าชมเพื่อพัฒนาจิตวิญญาณและความรู้ในตนเองโดยนำเสนอผลงานผสมผสานความหลากหลายทางองค์ประกอบของวัฒนธรรมและศาสนา นอกจากนั้นศูนย์วัฒนธรรมนี้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นักเขียนชาวคีร์กีซที่มีชื่อเสียง คือ Chingiz Aitmatovค่ำ รับประทานอาหารค่ำเข้าสู่โรงแรมที่พัก KARVEN SEASONS HOTEL, 4* CHOLPON ATA หรือเทียบเท่า
-
Day 3โชลพอน อาตา – คาราโคล
- เช้า รับประทานอาหารเช้านำท่านเดินทางไปยัง เมืองคาราโคล (Karakol) เดิมชื่อ เมืองพริเชวาลสค์ (Przhevalsk) ซึ่งตั้งชื่อเมืองเพื่อให้เป็นเกียรติแก่นักสำรวจชาวรัสเซียที่เสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1888 แต่ได้มีการเปลี่ยนกลับมาในภายหลัง การเดินทางมีระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง โดยเส้นทางจะผ่านช่องเขา Grogoriev และ Semenov เป็นช่องเขาที่มีชื่อเสียงมากในคีร์กีซสถาน เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดของเส้นทางรอบทะเลสาบอิสสิก คูล เมืองคาราโคล จัดเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศคีร์กีซสถาน รองจากเมืองบิชเคก โอช และเจลัล อาบัด เป็นเมืองที่ทหารรัสเซียได้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 เพื่อเป็นเมืองหน้าด่าน และต่อมาได้มีความเจริญขยายตัวมากขึ้น เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนประเทศจีนเพียง 150 กิโลเมตร เมืองคาราโคลได้ชื่อว่ามีทัศนียภาพที่สวยงาม จากความงามตามธรรมชาติของเทือกเขาเทียนซาน และทะเลสาบอิสสิก คูล จึงทำให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของคีร์กีซสถาน โดยที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับกิจกรรมหลายๆอย่าง เช่น การเดินป่า การปีนเขาบนเทือกเขาเทียนซาน และการเล่นสกี นอกจากนี้เมืองนี้ยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากมีกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่อพยพมาจากที่ต่างๆ รวมทั้งจากจีนในช่วงเกิดความไม่สงบทางการเมืองภายใน และหลบหนีมาอาศัยอยู่ที่นี่ เช่น ดุนกัน อุยกูร์ คัลมัค อุซเบก รัสเซีย และชาวคีร์กีซเดินทางมาถึงยัง เมืองคาราโคล (Karakol) นำท่านเยี่ยมชม มัสยิดดุนกัน (Dungan Mosque) ที่สร้างโดยช่างชาวจีน มัสยิดแห่งนี้ใช้เวลาสร้างถึง 6 ปี โดยมีเสาหลัก 42 ต้น มุงด้วยโครงไม้สามชั้น และถูกออกแบบต้องเป็นไปตามประเพณีสถาปัตยกรรมจีน มีรูปแบบการก่อสร้างที่ใช้ไม้นำมาขัดกัน โดยไม่มีการใช้ตะปู และทาสีสันสดใสตามรูปแบบวัฒนธรรมประเพณีของชาวดุนกัน โดยมีการตกแต่งวาดลวดลายของสัตว์ต่างๆในนิยาย เช่น มังกร ส่วนคานประดับด้วยภาพพืชและผลไม้หลากสีสันสวยงาม ปัจจุบันมัสยิดดุนกัน ถือเป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมจีนเพียงแห่งเดียวในเมืองคาราโคล และเป็นอาคารประวัติศาสตร์ที่ได้รับการจดทะเบียนโดยได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายของคีร์กีซสถานจากนั้นเดินทางไปชมหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในคีร์กีซสถาน ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองคาราโคล นั่นคือ โบสถ์ออร์โธดอกซ์แห่งพระตรีเอกภาพ (Holy Trinity Orthodox Church) เป็นโบสถ์ออร์โธดอกซ์ ที่สร้างขึ้น เพื่อให้ผู้ศรัทธาชาวคริสต์ในสมัยที่เมืองถูกตั้งให้เป็นเมืองด่านหน้าของจักรวรรดิรัสเซียซาร์ และมีการส่งกลุ่มกองทหารรักษาการณ์จากรัสเซียมาประจำการ ในช่วงปี ค.ศ. 1869โดยสร้างขึ้นจากท่อนซุง บนซากปรักหักพังของโบสถ์ที่สร้างด้วยอิฐ ด้านหน้าของโบสถ์ตกแต่งด้วยงานแกะสลัก มีหอระฆังตั้งอยู่ด้านบนสุด บนยอดหลังคาจะเป็นโดมปิดทองแบบสไตล์ดั้งเดิม ของโบสถ์ออร์โธดอกซ์ ตัวโบสถ์ได้รับการปรับปรุงใหม่ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 และปัจจุบันได้เปิดให้ผู้ศรัทธาและนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตามปกติกลางวัน รับประทานอาหารกลางวันบ่าย ออกเดินทางไปยัง ลานเล่นสกีของเมืองคาราโคล (Karakol Ski-Base Camp) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองคาราโคล ประมาณ 7 กิโลเมตร ใชเวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ลานสกีแห่งนี้นับเป็นจุดเล่นสกีที่สูงที่สุดในเอเชียกลาง เนื่องจากตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 3,040 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บนบริเวณเนินเขาของเทือกเขาเทียนซาน เมื่อเดินทางถึง นำท่านขึ้นเคเบิ้ลสกี เพื่อขึ้นไปชมวิวแบบพาโนรามาด้านบนยอดเขา ท่านจะเพลิดเพลินไปกับภูมิทัศน์ วิวภูเขาหิมะ ที่สวยงามโดยรอบแบบ 360 องศา พร้อมสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ของยอดภูเขา ให้ท่านได้ใช้เวลาอิสระตามสมควร จากนั้น นำท่านเดินทางกลับเมืองคาราโคลค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น พร้อมรับฟังดนตรีพื้นเมืองสไตล์ชาวคีร์กีซ (Kyrgyz Folk Show)เข้าสู่โรงแรมที่พัก KARAGAT HOTEL, 4* KARAKOL หรือเทียบเท่า
-
Day 4เมืองคาราโคล – หุบเขาเจตี้ โอกูซ - EAGLE SHOW – อุทยานแห่งชาติโชน เคมิน
- เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรมนำท่านเดินทางไปเยี่ยมชม หุบเขาเจตี้ โอกูซ(Jeti Oguz) ซึ่งได้รับฉายาว่า “วัวแดงทั้ง 7 ตัว” โดยฉายาที่ได้มาจาก ระยะทางกว่า 35 กิโลเมตร ที่ทอดยาวไปด้วยหน้าผาสีน้ำตาลแดงขนาดใหญ่ เสมือนกับวัวที่กำลังเกรี้ยวกราด 7 ตัวยืนเรียงกัน นอกจากนี้ หุบเขาเจตี้โอกูซ ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของน้ำพุร้อนที่ประกอบไปด้วยแร่ธาตุมากมายหลายชนิด สถานที่นี้ยังได้รับความนิยมในการมาพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อการบำบัดร่างกายและจิตใจในยุคของสหภาพโซเวียตอีกด้วยจากนั้นเดินทางต่อบนเส้นทางรอบทะเลสาบทางทิศใต้ ระหว่างทางนำท่านแวะชม การแสดงการล่าเหยื่อของนกอินทรีทอง (Golden Eagle Hunter) ที่เป็นความชำนาญซึ่งอยู่ในวิถีชีวิตของชาวคีร์กีซ ที่ถูกขนามนามว่า “มนุษย์นกอินทรี” (The Eagle Man of Kyrgyzstan) ซึ่งเป็นความรู้ ภูมิปัญญาเฉพาะถิ่น ที่ถูกสืบทอดสานต่อ จากรุ่น สู่รุ่น เป็นความภาคภูมิใจและถือเป็นเกียรติอันสูงสุดอย่างหนึ่งในชีวิตของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็น The Eagle Man และท่านจะสัมผัสได้ถึงความผูกพันอย่างแนบแน่น ระหว่าง “คน” กับ “นกอินทรี” ให้ท่านได้เก็บภาพอย่างอิสระกับประสบการณ์พิเศษแบบนี้ ที่จะหาชมที่อื่นได้ยากกลางวัน รับประทานอาหารกลางวันบ่าย จากนั้นชม การสาธิตการตั้งกระโจมของชาวคีร์กีซ (Yurt Set Up Demo) ซึ่งเป็นเสมือนที่อยู่อาศัยของชาวคีร์กีซ มาตั้งแต่อดีต ซึ่งท่านจะได้เรียนรู้ขั้นตอนการตั้งกระโจม ตลอดจนวัฒนธรรม ความเชื่อ และรูปแบบความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมของชาวคีร์กีซ ซึ่งยังคงพบเห็นได้ในปัจจุบันเดินทางต่อไปยัง หุบเขาโชน เคมิน (Chon-Kemin) เป็นสถานที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของคีร์กิซสถาน โดยมีแม่น้ำที่ไหลข้ามคุนไก-อลา ทู และเทือกเขาอิลอิสกี้ อลาทู มีความยาวกว่า 560 กิโลเมตร บริเวณแห่งนี้ได้ถูกอนุรักษ์ให้เป็น อุทยานแห่งชาติ โชน เคมิน (Chon Kemin National Park) ซึ่งมีพื้นที่เป็นธรรมชาติสีเขียวชอุ่มและกว้างใหญ่กับความหลากหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ป่าที่หายาก หุบเขาแห่งนี้เป็นป่าสนที่มีความหลากหลาย ของสมุนไพรและเห็ดชนิดต่างๆ ที่ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากในบริเวณนี้ให้ท่านได้เติมเต็มประสบการณ์กับ การขี่ม้าสายพันธุ์คีร์กีซแท้ บนเส้นทางเนินสันเขา ลดหลั่นไปมาท่ามกลางหุบเขา (1 ชั่วโมง) ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา โดยรอบหุบเขาโชน เคมินแห่งนี้ จากบนหลังม้าค่ำ รับประทานอาหารค่ำเข้าสู่โรงแรมที่พัก AZIZ HOTEL, 3* CHONKEMIN หรือเทียบเท่า
-
Day 5หุบเขา โชน เคมิน - เมืองบิชเคก
- เช้า ตื่นเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้นที่หมู่บ้านโชน เคมิน พร้อมสัมผัสบรรยากาศที่สดชื่นบริสุทธิ์รับประทานอาหารเช้าหลังอาหารเช้านำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองบิชเคก (Bishkek) เป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ถือเป็นศูนย์กลางการปกครองของประเทศคีร์กีซสถาน ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาเทียนซานและหุบเขาชุย (Chuy Valley) มีแม่น้ำชุยไหลผ่าน บิชเคกยังอยู่ในเส้นทางรถไฟสายเตอร์กิสถาน-ไซบีเรีย (Turkestan-Siberian Railway) บิชเคกก่อตั้งยุคข่านอุซเบกที่เคยปกครองบริเวณนี้ โดยสร้างเป็นป้อมปราการดิน เพื่อเป็นจุดแวะพักระหว่างการค้าบนเส้นทางสายไหม ในช่วงยุคที่ถูกปกครองโดยสหภาพโซเวียต เมืองถูกเรียกขานชื่อใหม่เป็น ฟรุนเซ (Frunze) ในช่วงปี ค.ศ. 1962 ครั้นต่อเมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลาย ก็ได้กลับมาใช้ชื่อ บิชเคก เหมือนเดิมระหว่างทางก่อนถึงเมืองบิชเคก นำท่านแวะชม หอคอยบูราน่า (Burana Tower) เป็นหอคอยขนาดใหญ่ ในหุบเขาชุย ทางตอนเหนือของคีร์กีซสถาน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองหลวงบิชเคก ประมาณ 80 กม.ในอดีตสถานที่นี้เป็นเมืองโบราณที่ถูกประกาศเป็น แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ชื่อว่า บาลาซากัน (Balasagun) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในสมัยราชวงศ์คาราคานิดส์ (Karakhanids) ในช่วงท้ายของศตวรรษที่ 9 แต่ในส่วนหอคอยถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 หอคอยแห่งนี้เป็นหนึ่งในโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียกลาง มีความสูงประมาณ 45 เมตร ซึ่งต่อมาได้เกิดแผ่นดินไหวหลายครั้ง ทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างมาเรื่อยๆจนในราวศตวรรษที่ 15 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำลายครึ่งบนของหอคอย ทำให้ส่วนสูงลดลงไปถึง 25 เมตร ท่านสามารถเดินไปขึ้นชมวิวทิวทัศน์โดยรอบที่ด้านบนยอดของหอคอยได้ โดยไต่บันไดวนด้านในหอคอย ที่ค่อนข้างแคบและสูงชันกลางวัน รับประทานอาหารกลางวันบ่าย จากนั้นเที่ยว ตลาดโอช บาร์ซา (Osh Bazaar) ซึ่งเป็นตลาดที่ไม่เหมือนที่ใด ท่านจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวคีร์กีซอย่างแท้จริง จากการเดินชมตลาด ลัดเลาะไปตามตรอก ซอกซอย ในแต่ละส่วนของตลาด ที่แบ่งเป็นของแห้ง ของสด ที่มีทั้งพวกเนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ นม ขนมปังกลม ถั่ว ธัญพืชต่างๆมากมาย และที่นี่ยังขึ้นชื่ออย่างมาก ในเรื่องของ เนื้อม้า ไส้กรอกม้า นมม้า ซึ่งเป็นอาหารถิ่นพิเศษยอดนิยมของชาวคีร์กีซเลยทีเดียว การเดินชมตลาดโอช แห่งนี้ เป็นสีสันของการเดินทาง ทำให้รู้จักกับวิถีของคนพื้นเมืองได้อย่างสนุกสนาน จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดชมจากนั้น เยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ (State Historical Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองบิชเคก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1926 ตั้งอยู่บนจัตุรัส อลา อาตู เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ มีพื้นที่จัดแสดงถึง 8,000 ตารางเมตร ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศในยุคสมัยต่างๆ ตั้งแต่การก่อร่างสร้างประเทศ จนถึงปัจจุบัน ตลอดจนการจัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมของชาวคีร์กีซที่ทรงคุณค่ามากมาย ซึ่งมีทั้งงานจิตรกรรม งานประติมากรรม และวัตถุโบราณล้ำค่า ตั้งแต่ยุคสมัยโบราณ จนถึงช่วงปลายศตวรรษที่ 20 พิพิธภัณฑ์นี้ถือเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในเอเชียกลางค่ำ รับประทานอาหารค่ำเข้าสู่โรงแรมที่พัก NOVOTEL 5*, Bishkek หรือเทียบเท่า
-
Day 6เมืองบิชเคก – อะลา อาร์ชา – อัลมาตี - สนามบินบิชเคก
- เช้า รับประทานอาหารเช้าหลังอาหารเช้า นำท่านไปชมธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติอะลา อาร์ชา (Ala Archa National Park) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองบิชเคกห่างออกไปราว 35 กิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติที่เป็นป่าสนอัลไพน์และมีเทือกเขาสูง คือ เทือกเขาเทียนซานเป็นฉากหลัง ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1976 ปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่165 ตารางกิโลเมตร และระดับความสูงตั้งแต่ 1,500 เมตรจนถึงสูงสุด 4,895 เมตรที่ยอดเขา Semenov-Tian-Shansky เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาอะลาตู ที่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเทียนซาน ที่อุทยานนี้ มีธารน้ำแข็งขนาดเล็กและขนาดใหญ่มากกว่า 20 แห่ง และยอดเขาอีก 50 แห่งภายในอุทยาน พื้นที่ทั้งหมดของธารน้ำแข็งในอุทยานครอบคลุมกว่า 53.6 ตารางกิโลเมตร อุทยานนี้ตั้งชื่อตามแม่น้ำอะลา อาร์ชา (Ala-Archa River) ที่ไหลผ่าน ที่นี่ยังมีต้นสนจูนิเปอร์ชนิดหนึ่งที่เติบโตได้ดีตามหุบเขา ซึ่งชาวคีร์กีซมักนำต้นสนนี้ใช้เพื่อปกป้องบ้านเรือนและขับไล่วิญญาณชั่วร้ายตามความเชื่อท้องถิ่น อุทยานแห่งนี้เหมาะแก่การทำกิจกรรมกลางแจ้งและสันทนาการหลากหลายชนิดในตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการเดินป่า ไต่เขา และปิกนิก ได้เวลาพอสมควร เดินทางกลับสู่ เมืองบิชเคกกลางวัน รับประทานอาหารกลางวันบ่าย นำท่านชม มัสยิดกลางแห่งเมืองบิชเคก (Bishkek Central Mosque) ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง ภายในมีโคมไฟระย้าขนาดใหญ่ 2 อัน แขวนจากโดมตรงกลาง ซึ่งเป็นงานฝีมือแบบออตโตมัน มีความสูง 70 เมตร มีโดมขนาดใหญ่ ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 23 เมตร และสูง 37 เมตร มีการใช้หินอ่อนสีขาวจากตุรกีในการสร้างอีกด้วย อิสระให้ท่านเก็บภาพและเดินชมบริเวณโดยรอบจากนั้นนำท่านเดินชมสูดโอโซนกลางใจเมืองที่ สวนสาธารณะแพนฟิลอฟ (Panfilov Park) และ สวนต้นโอ๊ค (Oak Park) ที่ถูกปลูกขึ้นเป็นแถวเรียงรายกันอย่างสวยงาม สัมผัสบรรยากาศรื่นรมย์ เดินชมสวนสวยต่างๆของเมือง พร้อมชมรูปปั้นสวยงาม ที่ประดับประดา ตกแต่งสวนตามจุดต่างๆอย่างเพลิดเพลิน ต่อด้วยการชม จัตุรัสกลางอะลาตู (Central Square Ala-too) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญของเมือง เช่น อาคารรัฐสภา (Parliament House) พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ (State Historical Museum) มหาวิทยาลัยแห่งชาติคีร์กีซ (Krygyz State University) เป็นต้น จัตุรัสแห่งนี้เป็นสถานที่หลักในการจัดงานสำคัญๆ เฉลิมฉลองในวาระสำคัญต่างๆของประเทศ หรือแม้แต่ใช้ในเหตุการณ์ประท้วงต่างๆ เช่น การประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุด ที่เรียกว่า การปฏิวัติทิวลิป ของคีร์กีซสถาน (Tulip Revolution) ในปี ค.ศ. 2005 บนพื้นที่ของจัตุรัส เดิมมีรูปปั้น Erkindik ที่แปลว่า อิสรภาพ ตั้งอยู่ตรงใจกลางจัตุรัส ซึ่งถูกนำมาวางไว้ในปี ค.ศ. 2003 แทนที่รูปปั้นของท่านเลนิน ซึ่งถูกย้ายไปตั้งในจัตุรัสด้านหลังที่มีขนาดเล็กกว่า ต่อมาในปี ค.ศ. 2011 ก็ถูกแทนที่ด้วยรูปปั้น อนุสรณ์สถานของท่านมานัส (Manas Monument) บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานของประเทศคีร์กีซสถาน เพื่อฉลองครบรอบ 20 ปี ของการได้รับอิสรภาพจากการล่มสลายของโซเวียต จากนั้นชม อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ (Victory Monument) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1985 ที่ประกอบด้วยหินแกรนิต ถูกตกแต่งให้เป็นรูปโค้ง มีลักษณะคล้ายกับกระโจมที่พักของชาวคีร์กีซสถาน ที่เรียกว่า เยิร์ท (Yurt) โดยให้ปลายด้านบนทั้งสามมาบรรจบกันที่มียอดเป็นเดือยแหลมเมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติมานัสแห่งเมืองบิชเคก เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย20.15 น. เหินฟ้าออกเดินทางจากเมืองบิชเคก สู่ เมืองอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน โดยสายการบิน Air Astana เที่ยวบินที่ KC110 (20.15-21.10)21.10 น. เมื่อถึงสนามบินนานาชาติ เมืองอัลมาตี รอเปลี่ยนเครื่องไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ
-
Day 7อัลมาตี - กรุงเทพฯ
- 01.10 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯโดยสายการบิน Air Astana เที่ยวบินที่ KC931 (01.10-08.55)(พร้อมรับประทานอาหารบนเครื่องบิน)08.55 น. เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ